มิสเตอร์เกรทกรีน : สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน รอบนี้เรา พาทุกท่านเดินทางมาสัมผัสอากาศเย็นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาชมสวนพุทรา ที่ใช้ปุ๋ยกิฟฟารีน โดยผู้แนะนำ คือ คุณจารึก  จะพาเราเข้าเยี่ยมชมครับ

มิสเตอร์เกรทกรีน : สวัสดีครับ คุณอนงค์ปลูกพุทราทั้งหมดกี่ต้นครับ

เดินเข้าชมในสวนแล้วเห็นผลผลิตดี มีวีธีการดูแลอย่างไรบ้างครับ? 

คุณอนงค์: ดิฉันปลูกพุทรามาแล้ว 11 ปี ได้ผลผลิตต่อเนื่องทุกปี  ใน พื้นที่ปลูกประมาณ 5 ไร่ จำนวน 250 ต้น 

พุทราที่วังน้ำเขียวขึ้นชื่อ เรื่องรสชาติหวาน กรอบ อร่อย เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีขายช่วงฤดูหนาว โดยเก็บผลผลิตได้ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ก็จะตัดแต่งกิ่งและบำรุงต้น ทั้งการให้ปุ๋ยทางดินและการพ่นปุ๋ยทางใบ  ของกิฟฟารีน ดังนี้

พ่นปุ๋ยทางใบ พ่นปุ๋ยทางใบประมาณ 7-10 วัน อัตราผสมต่อน้ำ 200 ลิตร

หลังจากเก็บผลผลิตหมดแล้ว จะตัดแต่งกิ่งต้นพุทราหลังแต่งกิ่ง จะให้ ปุ๋ยทางดิน สูตร 15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อบำรุงต้นให้ สมบูรณ์ หลังจากนั้นให้ต้นละครึ่งกิโลกรัม ประมาณ 2 ครั้งต่อเดือน เรื่อยไปจนถึงช่วง เก็บเกี่ยวผลผลิต จึงใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 300-500 กรัม (3-5 ขีด) ผสมร่วมกับปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 300-500 กรัม (3-5 ขีด) ต่อต้น และให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง พอชื้น

มิสเตอร์เกรทกรีน : พุทราสวยมากเลยครับ ผมได้ลองซิมแล้ว รสชาติ หวาน กรอบ สมคำร่ำลือจริงๆ ครับ คุณอนงค์เก็บผลผลิตแล้วเป็นอย่างไร และประทับใจอะไรในปุ๋ยกิฟฟารีนบ้างครับ

คุณอนงค์ : ผลผลิตพุทราจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณเดือนธันวาคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ผลผลิตเก็บได้ประมาณ 6 ตัน โดยราคาหน้า สวนอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าไปตลาดด้านนอก ราคา 80 บาทต่อกิโลกรัม 

ประทับใจมากค่ะ เพราะปกติจะเจอปัญหาดอกแห้งและร่วง มีปัญหาเรื่องแมลงเจาะลูก ลูกแตกบ้าง แต่เมื่อเริ่มใช้ปุ๋ยของกิฟฟารีน สามารถลดปัญหาเหล่านี้ได้มาก ไม่ค่อยมีแมลงรบกวน มีการติดดอกต่อเนื่อง รสชาติดี กรอบ ผิวสวย ลูกไม่แตก เนื้อในแน่น และเก็บผลผลิตได้นาน โดยปุ๋ยที่ประทับใจ คือ โบโรแคล ช่วยเรื่องความแข็งแรงการผสมเกสรดี ลดการร่วงของดอกและผล ประทับใจมากค่ะ